ทันตแพทย์บางคนแนะนำให้ใช้ steroid เพื่อลดการบวม โดยให้ล่วงหน้าก่อนการผ่าตัด steroid ที่นิยมใช้ ได้แก่ dexemethasone 3.
ปัญหาภายหลังการผ่าตัด จากการผ่าตัดที่ทันตแพทย์สามารถแนะนำและให้ผู้ป่วยรู้ ตลอดจนวิธีการควบคุมปัญหาต่างๆ ปัญหาภายหลังการผ่าตัด และสิ่งที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้ป่วยหายเร็วขึ้นมีดังนี้ เลือดออกภายหลังการผ่าตัด (post-operative bleeding) อาการบวม (swelling) ซึ่งจะพบใน 2. 1 อาการห้อเลือด (ecchymosis) 2. 2 อาการบวมน้ำ (edema) 3. อาการปวดและไม่สบายภายหลังการผ่าตัด (post – operative pain and discomfort) 4. กระดูกเบ้าฟันอักเสบ (alveolar osteitis, dry socket) 5. อาการชา (anesthesia) หรือความรู้สึกฟั่นเฝือ (paresthesia) 6. การอ้าปากได้จำกัด (trismus) 7. การติดเชื้อภายหลังการผ่าตัด (post-operative infection) 8. เนื้อเยื่อตายเฉพาะส่วน (tissue necrosis) 9. กระดูกได้รับการบาดเจ็บ (bone injuries) 10.
ทำการผ่าตัดนาน และบริเวณที่ทำการผ่าตัดยาก ทำให้เกิดการชอกช้ำกับเนื้อเยื่อมากกว่าปกติ 2. โรคประจำตัวของผู้ป่วย เช่น โรคหัวใจขาดเลือด จำเป็นต้องได้รับยา (anticoagulant) เพื่อละลายลิ่มเลือด 3. ผู้ป่วยไม่รู้ว่ามีความผิดปกติในเลือดถึงแม้ทันตแพทย์จะประเมินสุขภาพผู้ป่วยก่อนการผ่าตัดอย่างดี ผู้ป่วยเหล่านี้เมื่อได้รับการผ่าตัดก็อาจทำให้มีเลือดไหลมากกว่าคนทั่วไป การแก้ไขอาการห้อเลือด 1. อาการจะค่อยๆ หายไปในเวลา 7-14 วัน 2. อาการในช่องปาก ควรอมน้ำเกลืออุ่นๆบ่อยๆ 3. อาการนอกปากใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบบริเวณที่มีอาการห้อเลือด ตำแหน่งที่จะพบได้บ่อย ได้แก่ ใต้ลิ้นด้านข้างคอหลัง ใต้ขากรรไกรล่าง แก้ม ใต้ตา หรือบริเวณริมฝีปากบน อาการบวมน้ำ (Edema) การถอนฟันหลายซี่ การผ่าตัดเปิดเหงือก หรือหลังจากการฉีดยาชาเฉพาะตำแหน่ง ทำให้เกิดการฉีกขาดของกล้ามเนื้อ จะทำให้มีการบวมเกิดขึ้นเนื่องจากมีการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ อาการบวมจะเกิดขึ้นในเวลา 24 - 72 ชั่วโมง โดยจะมีอาการบวมมากใน 72 ชั่วโมง ต่อจากนั้นอาการบวมจะค่อยๆ ยุบลง ภายในเวลา 7 วัน การแก้ไขอาการบวม 1. แนะนำให้ผู้ป่วยใช้ความเย็นประคบบริเวณที่บวมได้แก่ Cold pack หรือน้ำแข็งใส่ถุงพลาสติกห่อผ้าไว้ ควรประคบความเย็นทุกๆ 20 นาที หลังจากนั้นใช้ความร้อนประคบ โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่น ไม่ควรใช้ความร้อนสูงๆ เป็นระยะเวลานานเพราะจะทำให้ผิวหนังไหม้ 2.