หน้าแรก / ข่าว / ข่าวเด่น ผู้ประกอบการ ประชาชน สองฝั่งแม่น้ำ เจ้าพระยา กทม. แจ้งเตือนติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เมื่อวันที่ 21 ก. ย.
): พื้นที่กรุงเทพมหานครมีฝนเล็กน้อย ปริมาณฝนสูงสุดวัดได้ที่จุดวัดสำนักงานเขตดอนเมือง 17. 0 มม. จุดวัด ส. คลองดาวคะนอง เขตธนบุรี 15. 5 มม. คลองแสนแสบ-คลองตัน เขตวัฒนา 15. จุดวัด บ่อสูบศาลอาญารัชดา เขตจตุจักร 14. ไม่มีรายงานจุดเร่งการระบายน้ำในถนนสายหลัก อย่างไรก็ตาม กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช. )
เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการบริหารจัดการน้ำ ข่าวที่น่าสนใจ
พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งสถานการณ์ฝน และพายุ ที่จะเกิดผลกระทบต่อกรุงเทพมหานคร อย่างใกล้ชิด และประกาศแจ้งเตือนประชาชนผ่านทาง เว็บไซต์ของสำนักการระบายน้ำ ()
สระบุรี จ. ลพบุรี และ จ. พระนครศรีอยุธยา จะมีปริมาณลดลงตามลำดับ นอกจากนี้ ยังให้เร่งบริหารจัดการพื้นที่น้ำท่วมบริเวณพื้นที่สองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยให้ปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ และให้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ทุ่งรับน้ำ ภายใน 2 วัน เพื่อให้สถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยไว โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งมีแผนจะลดน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท้ายเขื่อนลงให้อยู่ในอัตราประมาณ 1, 000 ลบ. /วินาที ภายใน 1 พ. ย. นี้ หากไม่มีฝนตกเพิ่ม พร้อมได้กำหนดแผนการระบายน้ำออกจากทุ่งตั้งแต่ 1 พ. 64 ให้เหลือน้อยกว่า 20% ภายใน 1 เดือน ด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วงประมาณวันที่ 8-11 ต. นี้ อาจจะมีฝนตกบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่อาจได้รับผลกระทบจากมวลน้ำจากฝั่ง สปป. ลาว จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดย กอนช. จะมีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดูแลและป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอย่างเต็มประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ปริมาณฝนนี้จะส่งผลดีในการเติมน้ำเข้าแหล่งน้ำไว้สำหรับฤดูแล้งหน้า นอกจากนี้ กอนช. ยังได้มีการติดตามประเมินสถานการณ์ทั้งในลุ่มน้ำมูลและลุ่มน้ำชีอย่างใกล้ชิด โดยสถานการณ์ลุ่มน้ำมูล ณ ปัจจุบัน ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและล้นตลิ่งในพื้นที่ตอนล่าง โดยจากการประเมินล่วงหน้าจากข้อมูลฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.
17 จังหวัดอ่วมน้ำท่วมหนัก!! "ปภ. " รายงานสถานการณ์น้ำท่วม 98, 327 ครัวเรือนเดือดร้อน เร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือด่วน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ. ) รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุ "เตี้ยนหมู่" ในช่วงวันที่ 23 กันยายน-10 ตุลาคม 2564 เกิดอุทกภัยใน 33 จังหวัด รวม 221 อำเภอ 1, 175 ตำบล 7, 944 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 316, 831 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 9 ราย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 17 จังหวัด ซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ. ก. )
ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำโดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังประจำจุด เครื่องสูบน้ำสำรอง เรือผลักดันน้ำ วัสดุอุปกรณ์ กระสอบทราย และอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมปฏิบัติการและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันทีเมื่อเกิดเหตุน้ำท่วม ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งตรวจสอบความแข็งแรงและจุดรั่วซึมของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานพระราม 7 จนถึงบางนา ความยาวประมาณ 78. 93 กิโลเมตร และเรียงกระสอบทรายเป็นเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ)และบริเวณแนวป้องกันที่มีระดับต่ำตามจุดต่างๆ 14 จุด รวมระยะทาง 2, 512 เมตร รวมทั้งตรวจสอบความพร้อมของสถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 97 สถานี และบ่อสูบน้ำตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งในช่วงน้ำทะเลขึ้น อนึ่ง ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์น้ำผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักการระบายน้ำ ตลอด 24 ชั่วโมง อ่านข่าวเพิ่มเติม 4 จังหวัดเช็คด่วน!! ปภ. ประกาศเตือนเฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม ช่วง 6-10 ต. ค. นี้ เช็ครายชื่อ!! 32 จังหวัดยังเสี่ยงฝนตกหนัก สั่งติดตามพยากรณ์อากาศใกล้ชิด พยากรณ์อากาศวันพรุ่งนี้ 31 จังหวัดยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน 5-10 ต. ระวังพายุ! !
ปทุมธานี พบว่ามีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมตลาดสูง 20 – 30 เซ็นติเมตร ทำให้ร้านต่างพากันปิดและก่ออิฐพร้อมนำกระสอบทรายมากั้นเพื่อกันน้ำ ส่วนพื้นที่ใกล้เคียงตลาดเช่นวัดสะแก ต. ปทุมธานี ซึ่งอยู่ริมน้ำเจ้าพระยา มีเอ่อล้นเข้าท่วมลานวัด เมรุและพระอุโบสถ์ต้องนำกระสอบทรายมากั้นทั่วบริเวณ คลิปเด่นประจำวัน
ประกอบกับในช่วงเวลาดังกล่าว เกิดสภาวะน้ำทะเลหนุนสูง คาดว่าจะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 30-50 เซนติเมตร โดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวังประกอบด้วย 1. จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา 2. กรุงเทพมหานคร บริเวณพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบให้ระดับน้ำล้นคันป้องกันน้ำริมแม่น้ำของกรุงเทพมหานคร ยกเว้นบริเวณที่ไม่มีระบบคันป้องกันริมแม่น้ำ. ในการนี้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้ 1. ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบความมั่นคงอาคารป้องกันน้ำริมแม่น้ำ เสริมคันกั้นน้ำบริเวณจุดเสี่ยงที่มีระดับคันป้องกันน้ำต่ำ และบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ 2. ประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมน้ำทราบล่วงหน้า 3. เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อบูรณาการความพร้อม ในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที
ศรีสำโรง อ. คีรีมาศ และ อ. เมืองสุโขทัย ระดับน้ำลดลง พิษณุโลก น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ. วังทอง อ. พรหมพิราม และอ. บางระกำ ระดับน้ำลดลง เพชรบูรณ์ เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ. หนองไผ่ อ. วิเชียรบุรี อ. ศรีเทพ อ. เมืองเพชรบูรณ์ อ. น้ำหนาว และอ. บึงสามพัน ระดับน้ำลดลง พิจิตร น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ. บึงนาราง อ. โพธิ์ประทับช้าง อ. โพทะเล และอ. สามง่าม ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร ระดับน้ำทรงตัว กำแพงเพชร ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ. ขาณุวรลักษบุรี และอำเภอคลองขลุง ระดับน้ำลดลง ขอนแก่น น้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อ. ภูผาม่าน อ. ชุมแพ อ. หนองเรือ อ. แวงน้อย อ. แวงใหญ่ อ. โคกโพธิ์ไชย อ. ชนบท อ. มัญจาคีรี และอ. โนนศิลา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น ชัยภูมิ ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ. เมืองชัยภูมิ อ. ภูเขียว อ. บ้านเขว้า อ. จัตุรัส และอ. คอนสวรรค์ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น นครราชสีมา ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อ. ด่านขุนทด อ. สูงเนิน อ. โนนสูง อ. เมืองนครราชสีมา อ. พิมาย อ. ปักธงชัย อ.