ก็ยังคงเพิ่มเติมในเรื่องสิทธิประโยชน์และการจัดระบบงบประมาณให้ประโยชน์สูงสุดกับประชาชน เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนล้มละลายจากการเจ็บป่วย ซึ่งในปีงบประมาณ 2565 นี้ จะมีการจัดหมวดงบประมาณให้ทันสมัยและเป็นปัจจุบันมากขึ้น หลักๆคือในส่วนของงบเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค จะมีการกำหนดชัดเจนว่าเป็นสิทธิสำหรับคนไทยทุกคนทุกสิทธิ จากเดิมที่อาจจะกำหนดไว้ไม่ชัดเจน รวมทั้งปรับระบบให้สอดคล้องกับผู้ใช้สิทธิอื่นๆที่ไม่ใช่สิทธิบัตรทองมากขึ้น เช่น การฝากท้อง อาจจะต้องเพิ่มหน่วยบริการ เพราะผู้มีสิทธิ์ประกันสังคมอาจสะดวกในการไปยังโรงพยาบาลต้นสังกัด ก็จะต้องประสานกับโรงพยาบาลให้มาเรียกเก็บเงินจาก สปสช. แทน หรือรายการตรวจสุขภาพประจำปีบางรายการจะต้องขยายบริการเพิ่มเติมเพื่อให้เหมาะกับผู้ประกันตนซึ่งสะดวกในการไปโรงพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนกับประกันสังคม เป็นต้น นอกจากนี้ ในส่วนของงบกองทุนส่งเสริมสุขภาพในระดับพื้นที่ ก็จะมีการปรับหมวดหมู่ใหม่ จากเดิมที่รวมไว้ในงบเหมาจ่ายรายหัว แต่ปีนี้จะแยกหมวดออกมาชัดเจน ทำให้สามารถขับเคลื่อนงานได้ชัดเจน มีการขยายขอบเขตความจำเป็นด้านสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ต่างๆมากขึ้น โดยงบประมาณส่วนนี้จะนำไปร่วมกับงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบูรณาการจัดกิจกรรมแก้ปัญหาสุขภาพให้กับประชาชนในพื้นที่ โดย สปสช.
ตั้งงบประมาณไว้ 2, 800 ล้านบาท สำหรับสมทบร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7, 000 กว่าแห่งทั่วประเทศ นพ.
กรมควบคุมโรคเตรียมเสนอ สปสช. ขยายชุดสิทธิประโยชน์ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคแก่ประชาชน อาทิ การคัดกรองซิฟิลิสกลุ่มเสี่ยง ขยายคัดกรองโรคเบาหวาน และประเมินสุขภาพผู้สูงอายุ ล่าสุดชุดสิทธิประโยชน์การคัดกรองสูบบุหรี่ในกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไป ผ่านการพิจารณาเบื้องต้น อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน ก่อนส่งกระทรวงสาธารณสุข 20 ก. ย. นี้ วันนี้ (10 ก. ) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรค ได้เตรียมเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับชุดสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้แก่ประชาชนผ่านโครงการศึกษาเพื่อพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ UCBP ประจำปี 2565 เบื้องต้นมี 3 ข้อเสนอ ประกอบด้วย 1. ขยายการคัดกรองซิฟิลิส มุ่งเน้นไปที่เยาวชน วัยรุ่น ผู้ต้องขัง และประชาชนที่มีพฤติกรรมเสี่ยง 2. ขยายการคัดกรองเบาหวาน มุ่งเน้นไปที่กลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน และ 3. การประเมินสุขภาพผู้สูงอายุ 9 ด้าน ซึ่งทำงานแบบบูรณาการร่วมกับกรมอนามัย เช่น ประเด็นพลัดตกหกล้ม เป็นต้น นายแพทย์โอภาส กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีการคัดกรองหาโรคไวรัสตับอักเสบบี ในกลุ่มเสี่ยงจากสาเหตุการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ขณะนี้เข้าสู่กระบวนการตามโครงการ UCBP แล้ว อยู่ระหว่างเสนอโครงร่างวิจัยขอทุนจากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส. )